กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับสุดท้ายเกี่ยวกับสถานการณ์พายุและสภาพอากาศของประเทศไทย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ตามประกาศฉบับที่ 11 เลขที่
373/2568 เรื่อง “พายุโคโตะ และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน” โดยยืนยันว่าเหตุการณ์นี้จะไม่มีประกาศเพิ่มเติม เนื่องจากสถานการณ์พายุได้คลี่คลายและไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.68 น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “โคโตะ” และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 11 (373/2568) ระบุว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้ (1 ธ.ค. 68)
พายุโซนร้อน “โคโตะ” (KOTO) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ได้อ่อนกำลังลง เป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 300 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองบินห์ดินห์ ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 15.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พายุนี้เกือบไม่เคลื่อนที่ ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามภายในคืนนี้ โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย
สำหรับประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยยอดดอยอุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส และยอดภูอุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุม
ประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนมีกำลังอ่อนลง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือโทร 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้