สนธิกำลัง เฉพาะกิจปราบปรามพิเศษพยัคฆ์ไพร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. ตรวจค้นรีสอร์ทชื่อดังม่อนแจ่มบุกรุกพื้นที่ป่า 2 จุด ก่อนร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ประกอบการทั้ง 2 จุด ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ตามพรบ.ป่าสงวนแห่งชาตี พ.ศ.2507 พรบ.ป่าไม้พุทธศักราช 2484 พรบ.ควบคุมอาคารและพรบ.โรงแรม.
เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษพยัคฆ์ไพร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. ได้เข้าตรวจสอบการก่อสร้างที่พักบริการนักท่องเที่ยวบริเวณม่อนแจ่ม ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ตามนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.
โดยปฏิบัติการครั้งนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการของ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้นายกมล นวลใย ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย พร้อมทั้งการทำงานบูรณาการกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ (ปทส.) ฝ่ายปกครอง สภ.แม่ริม และทหาร ในการปฏิบัติการครั้งนี้เข้าตรวจสอบทั้งหมด 2 จุด.
จุดแรกใกล้กับรีสอร์ทหว่าญ๋า โดยเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากสายข่าวแจ้งว่าเป็นของผู้ปกครองท้องที่ดังกล่าว จากการตรวจสอบพบมีการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติมประมาณ 2 งาน 72 ตารางวา มีสิ่งก่อสร้างที่พักจำนวน 2 หลัง มีการต่อระบบน้ำและระบบไฟเชื่อมโยงมาจากที่พักหว่าญ่า เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานพยานแวดล้อม พร้อมถ่ายภาพเพื่อไปดำเนินการต่อไป จุดที่ 2 คือรีสอร์ทภูโมริน พบมีการบุกรุกเนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 92 ตารางวา มีสิ่งปลูกสร้างและที่พักนักท่องเที่ยว จำนวน 20 รายการ.
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ประกอบการทั้ง 2 จุด ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ตามพรบ.ป่าสงวนแห่งชาตี พ.ศ.2507 พรบ.ป่าไม้พุทธศักราช 2484 พรบ.ควบคุมอาคารและพรบ.โรงแรม เพื่อสืบสวนสอบสวนตามพยานแวดล้อม ที่เจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานต่อไป โดยก่อนหน้านี้มีการดำเนินคดีกับนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในพื้นที่ม่อนแจ่มแล้วกว่า 35 ราย สำนวนคดีความอยู่ในชั้นอัยการ.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับรีสอร์ทหว่าญ่า มีที่พักนักท่องเที่ยว 16 หลัง จุดชมวิวแบบเทอเรส 9 จุด ร้านกาแฟ 1หลัง ร้านอาหาร 1 หลัง โดยเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์การครอบครองเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป .