ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งฝาย ติดตามคนร้ายลักรถมอเตอร์ไซค์ สืบจนพบรถและตัว คาบ้าน เบื้องต้นปฏิเสธข้อหาลักรถ ยอมรับ รับของโจร แต่พยานยืนยันชัดเพราะใบหน้ามีแผลเป็นตรงกัน

 

วันที่ 8 ก.พ. 2566 เวลาประมาณ 15.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งฝาย โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.วิภาส แสงศศิธร ผกก.สภ.ทุ่งฝายฯ
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งฝายฯ ผู้จับกุม ประกอบด้วย พ.ต.ท.สันติ แก้วอินต๊ะ รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.อนุชาติ วงศ์ปัญญา สว.สส.ฯ,ร.ต.อ.นิเวศน์ ฉัตรสกุลทอง รอง สวปฯ,ส.ต.อ.ธันวพล วรรณลักษณ์ ผบ.หมู่ (ป)ฯ , ส.ต.ต.พีรภัทร รัชผล ผบ.หมู่(ป.)ฯ ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายดุลยรัตน์ อายุ 46 ปี ชาวบ้าน
หมู่ 2 ตำบลต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง

พร้อมด้วยของกลาง 1.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น ฟินน์ สีดำ-เทา แผ่นป้ายทะเบียน 1กก 945 ลำปาง ราคาประมาณ 48,000 บาท โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนหรือรับของโจร” เหตุเกิดที่ ม.7 ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ23.45น. สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2566 เวลาประมาณ 02.15น. ได้มีผู้แจ้งความร้องทุกข์ โดยมี น.ส.ดวงดาว อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2566 เวลาประมาณ 22.00น.ว่ารถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟินน์ สีดำ-เทา ป้ายทะเบียน 1กก 945 ลำปาง ซึ่งผู้แจ้งได้จอดไว้ในบ้านตนเอง ได้หายไปในช่วงเวลาประมาณ 22.00น. ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 1 ก.พ. 2566

ต่อมาชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงปิดจากบ้านบริเวณข้างเคียง พบว่า ขณะเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 1 คน ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดเวลาประมาณ 23.40 น. ของวันที่ 1 ก.พ. 2566 โดยได้จูงรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกไป จากปากซอยหน้าบ้านของผู้เสียหาย จึงได้ไปติดตามสืบสวนหาข้อมูลจากร้านรับซื้อ-รับจำนำ รถมือสอง โดยเจ้าของร้านชื่อนายชัยฯ เขต ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ชุดสืบสวนได้นำภาพรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวให้นายชัยฯดู และนายชัยฯได้ให้การว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ได้มีผู้มาติดต่อจำนำไว้ แต่เมื่อตรวจสอบหลักฐานแล้ว ปรากฏว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครอง ไม่ได้มอบเอกสารมาประกอบการทำนิติกรรม จึงไม่ได้รับไว้ และจากการสอบถามนายชัยฯได้ให้การว่าบุคคลที่นำรถมาติดต่อจำนำเป็นชาย 2 คน คนหนึ่งรู้จักชื่อว่าแสน เป็นคนบ้านตันธงชัย ส่วนอีกคนหนึ่ง เป็นชายสูงอายุไม่ทราบชื่อลักษณะตำหนิแผลเป็นที่ใบหน้าบริเวณตาข้างซ้ายระหว่างหัวคิ้วทั้งสองข้าง ชุดสืบสวนได้นำภาพของนายแสนศักดิ์ ให้กับนายชัยฯดู ยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกัน และประกอบกับนายชัยฯได้ถ่ายรูปรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ที่นายแสนศักดิ์ฯ และชายอีกคนหนึ่งนำมาจำนำไว้ด้วย

ชุดสืบสวนจึงได้ไปติดตามหาตัวนายแสนศักดิ์ ซึ่งทำงานอยู่ที่ ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง พบนายแสนศักดิ์ ยอมรับว่า เมื่อประมาณ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ได้มีนายบอยฯ มาติดต่อกับนายแสนศักดิ์ฯถามถึงสถานที่รับจำนำรถจักรยานยนต์ ซึ่งนายแสนศักดิ์ฯได้แนะนำและพาไปที่ร้านนายชัยฯ จริง โดยนายแสนศักดิ์ฯ ไม่ทราบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของใคร และได้มาโดยวิธีใด พร้อมกับได้พาชุดสืบสวนไปยังบ้านของนายบอยฯ ซึ่งอยู่ ม.2 ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง

ต่อมา เวลาประมาณ 15.20น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ไปบ้านหลังดังกล่าว พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟินน์ สีดำ-เทา จอดอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งลักษณะถอดแผ่นป้ายทะเบียนออก จึงเข้าไปสอบถาม พบนายบอยฯ ทราบชื่อภายหลังว่า นายดุลยรัตน์ อายุ 46 ปีจากการสอบถามนายดุลยรัตน์ฯให้การว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้มีนายเด่น ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งทำงานเป็นผู้รับเหมามัดเหล็กอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง ใน อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง เป็นคนเอารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาให้ไปติดต่อจำนำโดยมีการถอดแผ่นป้ายทะเบียนออกมาก่อนแล้ว นายดุลยรัตน์ฯ จึงได้รับไว้และได้ไปติดต่อร้านรับจำนำจริง พร้อมกับนำชุดสืบสวนไปพบกับฝ่ายบุคคลของบริษัท เพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลว่านายเด่นฯ มีตัวตนจริงหรือไม่ ทางฝ่ายบุคคลของบริษัท แจ้งว่า พนักงานมีจำนวนมาก และไม่ทราบว่านายเด่นฯ ชื่อและนามสกุลจริง เป็นใคร จึงไม่สามารถให้ข้อมูลบุคคลได้ประกอบกับเมื่อพิจารณาเห็นว่าการที่นายดุลยรัตน์ฯ อ้างว่า ได้รับรถจักรยานยนต์มาจากนายเด่นฯ นั้นแต่ไม่สามารถติดต่อนายเด่นฯ ได้ เบอร์โทรศัพท์มือถือของนายเด่นฯ ก็ไม่ทราบ และก็ไม่เคยติดต่อกลับมาหลังจากที่ได้ส่งมอบรถให้ ซึ่งเป็นการผิดปกติวิสัย หากบุคคลใดฝากทรัพย์สินไว้ให้ไปทำนิติกรรมใดๆ น่าจะมีการติดต่อกลับมา ชุดสืบสวนจึงได้นำตัวนายดุลยรัตน์ มา สภ.ทุ่งฝาย เพื่อซักถาม

ประกอบกับ มี น.ส.นันทพัทธ์ ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ ของ น.ส.ดวงดาวฯ ผู้เสียหาย ได้ให้การว่า เวลาประมาณ 15.30 น. พบชายต้องสงสัย ซุ่มอยู่บริเวณกอไผ่ ใกล้บ้านของตนท่าทางลับๆล่อๆ เหมือนกับมาลาดเลาไว้ก่อน ซึ่ง น.ส.นันทพัทธ์ ยืนยันจำได้เพราะว่า ที่บริเวณใบหน้าของชายต้องสงสัยนั้นมีรอยแผลปรากฏบนใบหน้า ซึ่งตรงกับลักษณะแผลของนายดุลยรัตน์ฯ ด้วยเหตุและพฤติการณ์ดังกล่าวทำให้เชื่อว่านายดุลยรัตน์ฯ เป็นผู้ก่อเหตุทำการลักทรัพย์ และประกอบกับรถจักยานยนต์คันดังกล่าวพบอยู่ในบ้านของนายดุลยรัตน์ และแผ่นป้ายทะเบียนถูกถอดออกเก็บซ่อนไว้บริเวณในลิ้นชักโต๊ะในบ้านดังกล่าว ซึ่งนายดุลยรัตน์ฯ ยอมรับว่าได้รับรถมาจากนายเด่นฯ ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง เจ้าพนักงานชุดจับกุม เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนหรือรับของโจร” ให้กับนายดุลยรัตน์ฯ ทราบ ซึ่งนายดุลยรัตน์ฯ ให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหาว่าลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน แต่ให้การภาคเสธในข้อหาให้ “รับของโจร” เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้นำตัวนายดุลยรันต์ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งฝาย เพื่อดำเนินคดีต่อไป.